เกย์ (Gay) นั้นมาจากรากศัพท์คำว่า homosexual หรือ คนรักเพศเดียวกัน แต่จริงๆแล้วคำว่าเกย์ในภาษาอังกฤษนั้น หมายถึง ความไร้กังวล ความสุข ความสำราญใจ เฉียบแหลมและน่าประทับใจ แต่ทุกวันนี้เกย์คือความหมายของกลุ่มคนรักเพศด้วยกัน โดยในประเทศไทยนั้น เกย์คือกลุ่มชายรักเพศเดียวกัน ส่วนหญิงรักหญิงก็จะใช้คำว่าเลสเบี้ยน หากลงรายละเอียดแล้วมีการแยกย่อยไปมากมาย เช่น เกย์คิง เกย์ควีน โบท ทอม ดี้ เสือไบ กระเทย สาวประเภทสอง กระเทยหัวเกรียน ปัจจุับันมีคำที่นำมาเรียกกลุ่มวัฒนธรรมย่อยเหล่านี้ว่า เควียร์ (queer) นั้นเอง
การเรียกว่าคนไหนเป็นเกย์คิง เป็นกระเทย เป็นสาวประเภทสองนั้นเกณฑ์ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมทางเพศ และพฤติกรรมที่แสดงออกมาต่อสาธารณะชนของคนๆนั้นนั้นเอง ตั้งแต่อดีตเราจะสังเกตุได้ยากว่าใครเป็นเกย์ ยิ่งถ้าไม่แสดงออกว่าเป็นกระเทย หรือ สาวประเภทสอง ก็จะไม่มีทางรู้ได้เลย แม้ปัจจุบันก็ยังยากเหมือนเดิมและอาจซับซ้อนมากขึ้นเพราะคนปัจจุบันเริ่มมีพฤติกรรมทางเพศที่หลากหลายคือสามารถมีพฤติกรรมทางเพศกับคนเพศเดียวกันได้ทั้งที่อาจไม่ได้เป็นเกย์ก็ได้(จริงๆนะ)
เกย์ แน่นอนว่า คือ ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน คือเมื่อคุณเป็นเพศชายและชอบผู้ชายด้วยกัน ก็ถือว่าเป็นเกย์ละ เปรียบเทียบเป็นสแกลคำว่าเกย์มีสแกลที่วัดได้หลากหลายมีตั้งแต่เกย์ไม่มากจนถึงขึ้นแปลงเพศไปเลย แต่ปัจจุบันคำว่าเกย์เราจะเข้าใจว่าเป็นคนที่แต่งตัวเป็นผู้ชายและชอบผู้ชายด้วยกัน ส่วนใครที่แต่งหญิงเราก็เรียกว่าสาวประเภทสอง นั้นคือเราดูลักษณะภายนอกที่เขาแสดงออกมานั้นเอง
1. เกย์คิง หรือ เกย์รุก ปัจจุบันนิยมพูดกันว่ารุกมากกว่า เกย์คิงต้องพูดเมื่อ 10 ปีที่แล้วพอได้ เกย์รุกคือเกย์ที่เป็นผู้กระทำตามที่เราเข้าใจกันมาถูกต้องแล้วละครับ โดยทั่วไปจะเข้าใจว่ามีความเป็นผู้ชายมากเท่าๆกับผู้ชายทั่วไป แยกไม่ออก หรือแยกออกยากเพราะคนที่เป็นเกย์รุกส่วนใหญ่นั้นก็เหมือนผู้ชายทั่วไป แต่จริงๆและเกย์รุกมีทั้งแบบแสดงออก และไม่แสดงออก แถมเกย์รุกนั้นก็สามารถเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้ถูกกระทำได้เช่นกัน หากคู่นอนเป็นเกย์รุกเหมือนกัน ตอนนี้ก็ต้องตกลงกันว่าใครจะต้องรุกใครจะต้องรับ เกย์รุกเมื่อเจอคนที่ถูกใจก็จะสามารถรับได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่เกย์รุกที่ถูกกระำทำบ่อยเข้าก็จะสามารถรับได้ และเรียกตัวเองว่าโบท คือได้ทั้งเป็นผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ ต้องบอกว่าเห็นบ่อยมากพอเป็นเกย์นานๆไปจากที่รุกอย่างเดียว พอเห็นรุกที่หล่อกว่าตัวใหญ่กว่า แมนกว่าก็อยากเป็นผู้รับบ้าง แบ่งได้ดังนี้
a. เกย์คิงที่ไม่แสดงออกเหมือนผู้ชายทั่วไป ชอบรุกผู้ชาย และเกย์
b. เกย์คิงที่แสดงออก(สาวเสียบมีเยอะ!!) ชอบรุกผู้ชาย และเกย์
2. เกย์ควีน หรือ เกย์รับ อดีตดูง่ายเพราะจะออกกระตุ้งกระติ่ง ดูเรียบร้อยประมาณนั้น แต่ปัจจุบันบางคนก็จะดูแมนเหมือนเกย์รุก หรือเหมือนผู้ชายทั่วๆไปเลย แม้ปัจจุบันการเปิดเผยว่าเป็นเกย์มากขึ้นก็ใช่ว่าใครจะอยากเปิดเผยตัวตนของตนเองนี่จริงไหม เกย์ควีน หรือ เกย์รับก็เช่นกัน โดยมากจะเป็นผู้ถูกกระทำ แต่จะไม่แสดงอาการอะไรมากเพราะปัจจุบันเกย์รุกนิยมที่จะคบเกย์ที่ไม่แสดงออกมากนัก ส่วนใหญ่เกย์รับจะแทนตัวเองว่าเป็นโบท เพราะดูมีความเข้มแข็งและดูเป็นผู้ชายมากกว่า อีกทั้งทำให้อีกฝ่ายรุกรู้สึกสนใจในตัวเองมากขึ้น พฤติกรรมส่วนใหญ่ของเกย์ควีน หรือ เกย์รับ ก็จะแต่งตัวเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่กริยามารยาทเราอาจจะสังเกตุได้ง่ายกว่า เช่น เรียบร้อย สะอาดสะอ้าน กว่าปกติ เป็นต้น แบ่งได้ดังนี้
a. เกย์ควีนไม่แสดงออก ก็เหมือนผู้ชายนั้นแหละแอ๊บแมน แต่จะรับอย่างเดียว
b. เกย์ควีนแสดงออก อันนี้เยอะที่สุดมั้ง ชอบรับ
3. เกย์โบท คือ เกย์ที่ทำได้ทั้งรุกและรับผสมกันนั้นเอง บางคนเป็นรุกมากกว่า หรือ รับมากกว่า แต่พบคู่นอนที่ถูกใจเมื่อถูกถามก็มักจะบอกว่าเป็นโบท หรือ บางคนอาจบอกว่ารุกแต่ก็รับได้(ก็คือโบทนั้นแหละ) ส่วนมากโบทจะีมีโอกาสได้คู่นอนมากกว่าเพราะจะได้ทั้งเป็นผู้กระทำและถูกกระทำ เกย์โบทก็มีทั้งแสดงออกและไม่แสดงออกนะครับ
4. ไบเซ็กช่วล หรือ เรียกสั้นๆว่า ไบ คือผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์ได้ทั้งหญิง ชาย เกย์ แต่ก็มีเกย์ที่ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเป็นเกย์ก็จะแทนตัวเองว่าเป็นไบเช่นกัน เพราะรู้สึกว่าดูเป็นผู้ชายทั่วไปมากกว่า กลุ่มนี้จะเรามักเข้าใจว่าเขาจะเหมือนผู้ชายมากและเป็นเหมือนผู้ชายปกติ แต่จริงๆแล้วก็มีทั้งแบบแสดงออก และไม่แสดงออก อาจแบ่งเพิ่่มได้ดังนี้
a. ไบรุก คือ รุกได้ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเกย์
b. ไบรับ คือ ชอบรุกผู้หญิงแต่ให้ผู้ชาย และเกย์รุก จะไม่เป็นฝ่ายรุกผู้ชาย หรือ เกย์
c. ไบโบท คือ ชอบรุกผู้หญิงและได้ทั้งรุก-รับกับทั้งผู้ชาย และเกย์
d. ไบที่ชอบรุกผู้หญิง แต่ไม่รุก-ไม่รับชอบ จะมีอะไรกับผู้ชาย หรือ เกย์เพียงภายนอก
5. ตุ๊ด หรือ กระเทย หรือ สาวประเภทสอง จริงๆแล้วคือผู้ชายที่ต้องการเป็นผู้หญิงนั้นเอง ปัจจุบันไม่ค่อยเข้าพวกกับคำว่าเกย์ เพราะเกย์ไม่แต่งหญิงเลย ส่วนกลุ่มนี้ชอบแต่งหญิง และรู้สึกมีความสุข เป็นตัวของตัวเองเมืีอแต่งเป็นผู้หญิง ตอนเด็กๆมักถูกเพื่อนล้อว่าเป็นตุ๊ด หรือ กระเทย เพราะพฤติกรรมต่างๆจะปกปิดไม่มิด (บางคนปิดได้ก็โชคดีไป) เพราะโดยส่วนมากก็เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไปทั้งกิริยา มารยาท การพูดการจา ทำให้ถูกล้อตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นเข้าวัยรุ่นก็จะกล้าแต่งตัวมากขึ้น เมื่อโตเป็นผู้ชายและแต่งกายเป็นผู้หญิงก็เรียกว่าสาวประเภทสอง มีทั้งที่แปลงเพศแล้วและไม่แปลงเพศ แต่บางคนไม่แปลงเพศแถมยังแต่งเป็นผู้ชายเพราะต้องอยู่ในสังคม คนภายนอกดูก็อาจเข้าใจได้ว่าเป็นเกย์ได้เช่นกัน
Did you know?
คุณทราบไหมว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักตกหลุมรักผู้ชายที่เป็นเกย์(ตอนยังไม่รู้) เพราะเกย์จะดูเป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบ เก่งไปเสียหมดทุกด้าน ดูเพียบพร้อม ทั้งหน้าที่การงาน ฐานะการเงิน และนิสัยใจคอ เกย์มีในทุกวงการและอยู่ทุกที่ในโลก การพิสูจน์ว่าใครเป็นเกย์นั้นไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย เพราะปัจจุบันผู้ชายแท้ๆเหมือนเกย์ ส่วนเกย์จะดูแมนๆเป็นผู้ชายมากกว่า ผู้หญิงก็ต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ วิธีพิสูจน์ที่ง่ายที่สุดคือ การหาผู้ชายที่หล่อๆ หรือ หาเกย์หน้าตาดี(ไม่แสดงออก) มาทดลองจีบเขา และดูพฤติกรรมเขาว่ามีความเป็นเกย์ไหม? วิธีอื่นเสียเวลาและประสิทธิภาพต่ำครับ
ที่มา howtobecomegay
แสดงความคิดเห็น