Unknown Unknown Author
Title: ใครเสี่ยงกว่ากัน ระหว่างรุกกับรับ?
Author: Unknown
Rating 5 of 5 Des:
รู้หรือไม่ การเป็นฝ่ายรับโดยไม่ป้องกัน หรือไม่ใส่ถุงยางอนามัยนั้น เสี่ยงแค่ไหน ไปฟังคุณหมอนิตยา ภานุภาค ไขข้อข้องใจว่า ระหว่างรุกกับรับ อย่า...
รู้หรือไม่ การเป็นฝ่ายรับโดยไม่ป้องกัน หรือไม่ใส่ถุงยางอนามัยนั้น เสี่ยงแค่ไหน ไปฟังคุณหมอนิตยา ภานุภาค ไขข้อข้องใจว่า ระหว่างรุกกับรับ อย่างไหนจึงเสี่ยงกว่ากัน 
ที่สำคัญ ไม่ว่าความเสี่ยงจะเป็นเช่นไร การใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี และทุกครั้งนั้น ดีที่สุดในทุกกรณีและท่วงท่านะเพื่อนๆ ป้องกันได้ทั้งเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์



ขอขอบคุณ แพทย์หญิง นิตยา ภานุภาค
ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย


การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีเมื่อมีโอกาสสัมผัสเชื้อ

คำถามที่มักเจอบ่อยๆจากกระดานสนทนา อีเมลล์ และ เฟสบุ๊คของ Adam’s love ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ มักจะถามในเรื่องของการสัมผัสเชื้อหรือสงสัยว่าจะสัมผัสกับเชื้อเอชไอวี เช่นน้ำอสุจิเปื้อนมือ สงสัยว่าถุงยางแตก หรือไปฟันดาบมาจะติดไหม จึงอยากชวนคุยถึงแนวทางการป้องกันตนเอง ซึ่งเราอาจจะไม่แน่ใจว่าสารคัดหลั่ง เช่นเลือด หรืออสุจิ ที่เราสัมผัสนั้นมีเชื้อเอชไอวีอยู่หรือไม่ ดังนี้ค่ะ

-ถ้าโดนเข็มหรือของมีคมที่ต้องสงสัยบาด ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดและหรือน้ำสบู่ แม้ว่ายังไม่มีข้อมูลว่าการใช้น้ำยาทำลายเชื้อชนิดใดดีที่สุด ในกรณีนี้น้ำยาทำลายเชื้อที่แนะนำ เช่น 70% แอลกอฮอล์หรือเบตาดีน ไม่ควรใช้น้ำยาที่กัดหรือทำลายผิวหนังและเยื่อบุ และไม่ควรบีบเค้นแผลอย่างรุนแรง (กรมควบคุมโรค, 2550)

-ถ้าเลือดหรือสารคัดหลั่งกระเด็นเข้าตา ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดมากๆ อย่าขยี้ตาด้วยความรุนแรง

-ถ้าเลือดหรือสารคัดหลั่งกระเด็นเข้าปาก ให้บ้วนปากและหรือกลั้วปากและคอด้วยน้ำสะอาดมากๆ

-ถุงยางรั่วหรือฉีกขาด (www.PrevAIDS.org)

• ในกรณีที่ถุงยางมีรูรั่วเล็กน้อย หากส่วนปลายสุดขององคชาติ สัมผัสกับ น้ำจากทวารหนักเป็นระยะเวลาไม่นานนัก ถือว่าไม่เป็นอันตรายมาก เพียงเปลี่ยนถุงยางใหม่ และสามารถมีเพศสัมพันธ์ต่อได้
• ในกรณีที่ถุงยางมีรูรั่วขนาดใหญ่ ผู้ที่สอดใส่จะรู้สึกได้ทันที หากหยุดการมีเพศสัมพันธ์ และเปลี่ยนถุงยางใหม่ ก็ถือว่าปลอดภัย
• หากเป็นการสัมผัสกันระหว่างผิวหนังรอบท่อปัสสาวะ (ที่ไม่ใช่ส่วนสีแดงปลายสุดขององคชาติ) หรือบริเวณโคนองคชาติกับช่องคลอด หรือทวารหนัก เช่นนี้ถือว่าไม่เป็น อันตรายแต่อย่างใด
• หลังจากที่ฝ่ายรุกถึงจุดสุดยอดแล้ว หากพบว่าน้ำอสุจิไม่ได้ค้างอยู่ในถุงยางอนามัย ฝ่ายที่ถูกสอดใส่ถือว่าอยู่ในภาวะอันตราย

วิธีปฏิบัติหลังเกิดพฤติกรรมเสี่ยง 

หากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ เช่น สารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศเข้าสู่ร่างกายเช่น ถุงยางแตกโดยไม่รู้ตัว หรือสอดใส่อวัยวะเพศเข้าทวารหนักโดยไม่ป้องกัน คือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัยนั่นเอง ควรรีบมาโรงพยาบาลที่เราสะดวก หรือมาที่คลีนิคนิรนาม (กรณีเกิดนอกเวลาให้มาที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล) โดยเร็วที่สุด หรือ ภายใน1-3 ชั่วโมง อย่ารอจนเกิน 72 ชั่วโมง เพื่อให้แพทย์พิจารณาและให้คำแนะนำว่าเราควรทำอย่างไรต่อไปค่ะ 

ที่มา adamslove.org

About Author

Advertisement

แสดงความคิดเห็น

 
Top